เกมเป็นสื่อความบันเทิงที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและมอบความบันเทิงที่ยอดเยี่ยมให้กับผู้เล่น แต่บางเกมมีระบบการเล่นเชิงเส้นมากเกินไป ทำให้ผู้เล่นบางกลุ่มต้องการความแปลกใหม่หรืออิสระในการเล่นมากขึ้น จึงถือเป็นจุดกำเนิดของเกม Open World รูปแบบเกมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงหลังๆ นี้ โดยมีอิสระในการทำอะไรหรือไปไหนก็ได้ระหว่างเล่น ไม่ถูกบังคับให้เดินตามฉากแคบๆ
แถมโลกของเกมก็ไม่ได้ดูว่างเปล่าจนเกินไป แต่ยังมีอะไรให้ทำมากมายนอกเหนือจากภารกิจหลัก ส่งผลให้มีเกมเมอร์จำนวนไม่น้อยที่หลงใหลในเกม Open Worldนอกจากนี้เกม Open World ยังสามารถนำมารวมกับเกมประเภทต่างๆ ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเกมแอคชั่น เกมผจญภัย เกมยิงปืน หรือเกม RPG ทำให้เกมเมอร์แต่ละคนมีแนวโน้มที่จะมีเกม Open World ที่เหมาะกับตนเอง กับตัวเองแตกต่างออกไป วันนี้เราได้รวบรวม 20 อันดับเกม Open World ที่น่าเล่นมาแนะนำให้กับทุกคนแล้ว
Red Dead Redemption 2
สุดยอดเกม Open World อีกเกมจาก Rockstar ทีมพัฒนาที่เชี่ยวชาญด้านการสร้างเกมแนวนี้ เรารับบทเป็นอาเธอร์ มอร์แกน สมาชิกแก๊งหัวขโมยชื่อดัง แต่อยู่ในช่วงถดถอย ในขณะที่ศีลธรรมในใจของเขาเรียกร้องให้เขาละทิ้งมันไป เขาจะสามารถช่วยแก๊งค์ของเขาได้หรือไม่? แค่เรื่องย่อก็เข้มข้นมากแล้วใช่ไหม? นักเล่นเกมเนื้อเรื่องจะต้องชอบมันอย่างแน่นอนเกมนี้ยังมีโครงสร้างที่ซับซ้อนและอลังการมาก สามารถจำลองเมืองในยุคคาวบอยได้ รวมถึงรายละเอียดที่สมจริงของม้าและปืนโบราณต่างๆ ที่คุณสามารถเล่นออนไลน์กับเพื่อน ๆ ได้เช่นกัน เป็นเกมที่มีธีมคลาสสิคแต่มีระบบที่ทันสมัยให้คุณเล่น เป็นเกมแอคชั่นที่ต้องใช้ทักษะระดับหนึ่งในการเล่นเกม เป็นเกมที่ให้ความรู้สึกคลาสสิคมาก
Ghost of Tsushima
เป็นเกมที่ถูกพูดถึงมาโดยตลอด: Ghost of Tsushima เกมโอเพนเวิลด์ที่ให้เรารับบทเป็น “จิน” ซามูไรหนุ่มที่ต้องปกป้องเกาะสึชิมะในญี่ปุ่นจากการรุกรานของชนเผ่ามองโกล เกมดังกล่าวนำเสนออารยธรรมและฉากต่าง ๆ อย่างสวยงามและน่าติดตาม คนที่ชอบเกมที่มีกราฟิกสวยงามคงจะชอบเกมนี้ ถึงแม้จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสงคราม แต่ก็มีเนื้อหาที่เข้าถึงได้ง่ายเกมเปิดให้เราเลือกว่าจะต่อสู้กับศัตรูแบบเผชิญหน้าอย่างมีเกียรติหรือไม่ หรือใช้อาวุธลับและลอบสังหารเพื่อกำจัดศัตรูเหมือนนักฆ่า ฉากหลังเป็นเกาะสึชิมะที่สวยงาม ล่าสุดตัวเกมได้เพิ่มโหมด Legends ที่ทำให้เราทำภารกิจออนไลน์ร่วมกับเพื่อนๆ ได้ รับรองว่าเล่นได้ยาวๆ คุ้ม สนุกจนลืมเวลาแน่นอน
Grand Theft Auto V
หากว่ากันว่าเกม Open World ได้รับความนิยมเพราะเกม Grand Theft Auto หรือ GTA ก็คงไม่ผิด เพราะ GTA 3 ได้กำหนดมาตรฐานว่าเกม Open World ดีๆ ควรมีจนกลายเป็นเครือเกม . ได้รับความนิยมอย่างสูง และสุดท้ายเกม Open World ก็ได้พัฒนาเป็นเกมอีกมากมายที่มีธีมมากมาย แต่ GTA ก็ยังคงเป็นหนึ่งในเกมแรก ๆ ที่เกมเมอร์มักจะนึกถึงเมื่อมาถึงตอนที่ 5 ผู้พัฒนาได้ยกระดับเกมนี้ขึ้นไปอีกระดับ ด้วยการจำลองเมืองใหญ่ที่มีความละเอียดสูงทั่วทั้งเมือง มีภารกิจและตัวละครใหม่ๆ มากมาย พร้อมด้วยเนื้อเรื่องที่เข้มข้น คุณสามารถเลือกเส้นทางสำหรับตัวละครของคุณได้ เกมดังกล่าวยังมีโหมดออนไลน์สำหรับเล่นกับเพื่อน ๆ หากคุณเป็นคนที่ชอบเกม Open World ห้ามพลาดเกมนี้
Assassin’s Creed Odyssey
Assassin’s Creed Odyssey เป็นภาคล่าสุดของ Assassin’s Creed ซึ่งคราวนี้ถูกลดทอนลงเป็นเกมนักฆ่า แล้วเน้นไปที่ภาค RPG แทน แต่ตัวเกมยังคงเอกลักษณ์ของการเป็นเกม Open World ที่มีโลกกว้างใหญ่ ธีมของเกมแตกต่างจากภาคอื่นๆ แต่ยังคงมีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งเราเชื่อว่าแฟน ๆ ของซีรีส์นี้จะชื่นชอบในภาคนี้นอกจากจะต่อสู้กับศัตรูที่เป็นมนุษย์แล้ว ยังมีสัตว์ประหลาดในตำนานเทพเจ้ากรีก เช่น มิโนทอร์ หรือ เมดูซ่า ที่มาเสริมกำลังให้เราได้ต่อสู้อีกด้วย นี่เป็นการเปิดประตูสู่ความเป็นไปได้ใหม่ๆ มากมายสำหรับซีรีส์นี้ เกมดังกล่าวมีลักษณะเหมือนแฟนตาซีมากขึ้น แม้ว่าคุณจะไม่เคยเล่นเกมในซีรีส์นี้มาก่อน คุณก็สามารถสนุกได้แม้ว่าคุณจะเล่นส่วนนี้เป็นครั้งแรกก็ตาม
The Legend of Zelda : Breath of the Wild
เกมตระกูล Zelda นั้นเก่าแก่พอ ๆ กับ Mario และภาคล่าสุดนี้เป็นการเข้าสู่โลก Open World เป็นครั้งแรก แต่ Nintendo ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะ Breath of the Wild ถือเป็นเกม Open World ที่มีความคิดสร้างสรรค์ ตัวเกมจะเน้นไปที่การเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้สำรวจโลกอันกว้างใหญ่นี้ด้วยตัวเอง แทนที่จะวางจุดบนแผนที่ ให้ติดตามพวกเขาภายในเกมยังมีทางเลือกให้เราจัดการกับศัตรูได้หลายประเภทโดยไม่ต้องต่อสู้โดยตรง เช่น ล่อให้โดนก้อนหินล้ม เป็นต้น สร้างบรรยากาศการผจญภัยอย่างแท้จริง นอกจากจะได้ผจญภัยและต่อสู้กับศัตรูแล้ว คุณต้องวิเคราะห์สถานการณ์รอบตัวด้วย เกมบอกเล่าเรื่องราวและการผจญภัยผ่านกราฟิกที่สวยงาม มีจินตนาการสูง เหมาะสำหรับนักเล่นเกมทุกระดับ
Forza Horizon 5
Forza Horizon 5 เป็นเกมแข่งรถแบบ Open World ที่น่าสนใจมาก เพราะตัวเกมไม่ได้ละทิ้งเสน่ห์ของการเป็น MMO และยังได้เพิ่มความสนุกสนานของการเป็นนักแข่งรถอีกด้วย เมื่อคุณสตาร์ทรถในเทศกาลขับรถสุดยิ่งใหญ่ คุณสามารถทำภารกิจให้สำเร็จเพื่อสำรวจพื้นที่โบราณที่ได้รับมอบหมาย หรือจะลงแข่งในงานต่างๆก็ได้เมื่อลงจากรถ จิตวิญญาณแห่งการแข่งรถก็จะเต็มเปี่ยม เพราะภูมิภาคนี้มีกิจกรรมให้ทำหลายประเภท ถือเป็นประสบการณ์การขับรถฝ่าสายลมและเพลิดเพลินกับทัศนียภาพในเม็กซิโกที่เต็มไปด้วยความงดงามอย่างแท้จริง แม้ว่าจะเป็นเกม Open World แต่เกมนี้ใช้ทักษะเกมแข่งรถที่สูงมาก เพราะตัวเกมไม่ได้เน้นการสำรวจแต่เน้นการแข่งด้วยความเร็วมากกว่า
บทความแนะนำ